ประวัติเนตรนารีไทย (ลูกเสือหญิง)

เมื่อ

โดย

ประวัติเนตรนารีไทย คณะเนตรนารีเพชราวุธ เนตรนารี ไทย ที่มา

เนตรนารีไทย ก่อตั้งขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วยมีพระราชคำนึงว่า สตรีและเด็กหญิงเองก็อาจเป็นกำลังของชาติได้ จึงได้ทรงตั้งกลุ่มสตรีขึ้นเรียกว่า “สมาชิกแม่เสือ” และได้รับฟื้นฟูโดยสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีพระราชธิดาพระองค์เดียว และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ 6

การก่อตั้งเนตรนารีในขณะนั้นหรือที่เรียกว่า “สมาชิกแม่เสือ” จะเปิดรับสมัครสตรีที่ส่วนมากเป็นภรรยาและบุตรของเสือป่า โดยเหล่าสมาชิกแม่เสือจะมีหน้าที่ในการจัดหาเสบียงและเวชภัณฑ์เพื่อส่งให้กองเสือป่า อีกทั้งยังออกชำระค่าบำรุงสโมสรลูกเสือด้วย ซึ่งในขณะนั้นลูกเสือที่เป็นผู้ใหญ่เสียค่าบำรุง 2 บาท/ปี และลูกเสือที่เป็นเด็กเสียค่าบำรุง 50 สตางค์/ปี

โดยที่สมาชิกแม่เสือจะมีสิทธิประดับเข็มเครื่องหมายเป็นรูปหน้าเสือทำด้วยเงิน เชิญพระปรมาภิไธย ย่อว่า ว.ป.ร. ทองอุณาโลม มีโบว์ดำเป็นรูปดอกจันทร์สอดใต้เข็มเครื่องหมายติดไว้ที่อกเสื้อ แต่อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนั้นสมาชิกแม่เสือจะยังไม่มีเครื่องแบบและยังไม่มีระเบียบข้อบังคับเหมือนในปัจจุบัน

ต่อมาพระองค์ได้มีพระราชดำริที่จะจัดตั้ง กองลูกเสือหญิง และได้ทรงคิดนามพระราชทานไว้ว่า เนตรนารี ด้วยทรงเห็นว่าเด็กผู้หญิงย่อยมมีความสำคัญแก่ครอบครัว ถ้าได้รับการฝึกอบรมตามวิธีการของลูกเสือก็จะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติได้เป็นอย่างมาก จึงทรงร่างข้อบังคับลักษณะปกครองคณะเนตรนารีมากล่าวไว้ ดังนี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานปรารถนาว่า

ได้ทรงจัดตั้งกองลูกเสือขึ้นเพื่อบำรุงเด็กชายให้ได้รับการฝึกฝนในทางที่จะเป็นผู้มีลักษณะสมกับที่เป็นพลเมืองอันพึงปรารถนา มีพระราชประสงค์ที่จะทำนุบำรุงเด็กหญิงด้วย เพราะเด็กหญิงเป็นผู้มีความเป็นเป็นอยู่ของชาติ ต้องอาศัยนับจำเดิมแต่ปฐมวัยมา คือ เด็กหญิงเป็นผู้ที่นำทางพี่น้อง แม้ที่สุดบางทีก็ถึงนำทางบิดา มารดา ด้วยเมื่อเติบโตเป็นพลเมืองในสมัยข้างหน้าไปตามที่ได้รับ การอบรมได้จึงมีพระราชดำริว่า ถึงเวลาที่ควรจะฝึกหัดให้หญิงเป็นผู้นำทางไปที่ชอบ คือ ฝึกฝนให้เด็กหญิงเหมาะที่จะเป็นพลเมืองดีในภายหน้าด้วยการอบรมนิสัยฝึกหัดให้รู้จักสังเกต รู้จักอยู่ในถ้อยคำของผู้ใหญ่ ตลอดจนอยู่ในพระราชกำหนดกฎหมาย มีความจงรักภักดีต่อผู้ใหญ่ของตน ตลอดจน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ทำประโยชน์แก่มหาชนและในกิจการที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนที่ฝึกหัดร่างกายให้เจริญเต็มที่

จึงทรงตราพระราชบัญญัติเนตรนารีขึ้น

เนตรนารีกองแรก

เนตรนารีกองแรก คือ กองเนตรนารี โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย

นางสาวหนุ่ย โชติกเสถียร 1 ในเนตรนารีกองแรก ได้เขียนถึงกิจกรรมสำหรบเนตรนารีในสมัยนั้นเอาไว้ว่า

ในปี พ.ศ. 2457 โรงเรียนกุลสตีรวังหลัง จัดตั้งกองเนตรนารีขึ้น และให้เราเป็นกลุ่มแรกที่รับการฝึกหัด ข้าพเจ้ายังจำและรู้สึกถึงความสนุกสนานของเวลานั้นได้จนบัดนี้ เราช่วยกันจัดข้าวของและห้องหลับ หองนอน ตลอดจนช่วยครัว ห้าโมงเย็นก็ลงมือรับประทานอาหาร สองทุ่มก็เข้านอนกันหมด เข้าเรียนเวลา สามโมงเช้า และเรียนกันตามใต้ร่มไม้ วิชาที่เรียนคือ

  1. วิชาพฤกษศาสตร์ เป็นวิชาที่พวกเราชอบมาก เพราะได้ลงมือเพาะเมล็ดพืช ผัก ดอกไม้ มันฝรั่งและหัวหอม
  2. วิชาปฐมพยาบาล หัดช่วยคนเป็นลม วิธีพันผ้าพันแผลและเข้าเฝือก เราจับเด็กชาวนามาชำระล้างและพันแผลให้
  3. วิธีทำกับข้าว หุงข้าว วิชานี้เป็นงานไปในตัว เพราะเราต้องผลัดเวรกันไปตลาดและทำกับข้าว เวลาบ่ายๆเราต้องเรียนและฝึกซ้อมกฎของเนตรนาร คือพยายามหาความงามในทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนประพฤติ โดยมีความสุภาพอ่อนโยน อารีอารอบ ต้องพยายามหาความรู้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม และส่วนตัว อดทนในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม เวลาเรียกเข้าประชุมอาจารย์มักจะกู่ว่า โว วิลโล่ “Vo-vi-lo” หลาย ๆ ครั้ง พวกเราก็รีบวิ่งมาทันที

กิจการเนตรนารีหลังเปลี่ยนการปกครอง

ภายหลังเปลี่ยนการปกครองเมื่อ พ.ศ. 2475 กิจการลูกเสือทรุดโทรมลง กิจการเนตรนารีซึ่งมีสภาพเช่นเดียวกันก็พลอยทรุดโทรมลงไปด้วย มีการตั้งหน่วยยุวชนและยุวนารีขึ้นแทน ในสมัยที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เรืองอำนาจ การลูกเสือก็ยิ่งซบเซามากขึ้น

ใน พ.ศ. 2496 เมื่อกิจการลูกเสือได้ฟื้นฟูขึ้นแล้ว เรือเอกหลวงชัชวาล ชลธีหัวหน้ากองลูกเสือ จึงได้นำร่างข้อบังคับลักษณะ ปกครองคณะเนตรนารีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาขอให้ท่านผู้หญิงดุษฎี มาลากุล ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสภาวัฒนาธรรมแห่งชาติและอุปนายกสโมสรวัฒนธรรมหญิง เมื่อ พ.ศ. 2497 รื้อฟื้นกิจการเนตรนารีขึ้นใหม่ใน พ.ศ. 2499 ท่านผู้หญิงดุษฎี มาลากุล จึงได้นำเยาวชน สมาชิกของสโมสรวัฒนธรรมหญิง จำนวน 32 คน ไปฝึกการอยู่ค่ายพักแรมที่ ตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี

โดยต่อมา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ได้พระราชทานกำเนิดกองเนตรนารี และทรงรับกิจการเนตรนารีนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ โดยพระราชทานเงินสนับสนุนกิจการและทรงเสด็จร่วมงานของคณะเนตรนารี ต่อมาพระราชทานนามคณะเตรนารีว่าคณะเนตรนารีเพชราวุธ โดยเกิดจากการสนธิระหว่างคำ 2 คำ จากพระปรมาภิไธยของพระราชชนกและของพระองค์

ประเภทของเนตรนารี

ประเภทของเนตรนารี มี 4 ประเภท คือ

  • เนตรนารีสำรอง ป.1 – ป.4
  • เนตรนารีสามัญ ป.5 – ป 6
  • เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ ม.1 – ม 3
  • เนตรนารีวิสามัญ ม.ปลาย และอาชีวะศึกษา

และตั้งแต่เนตรนารีสามัญขึ้นไปแบ่งเหล่าของเนตรนารีเป็น 3 เหล่าเช่นเดียวกับเหล่าของลูกเสือ ได้แก่

  • เหล่าเสนา
  • เหล่าสมุทรเสนา
  • เหล่าเสนาอากาศ

อ้างอิง คณะเนตรนารีเพชราวุธ และ ประวัติความเป็นมาเนตรนารี(16 ส.ค.66) และ Girl Scouts เมื่อ 100 กว่าปีก่อน เนตรนารีกองแรกของไทย เรียนและฝึกอะไรกัน